ชัชชาติ เผยลดความสูงซากตึกเหลือ 20 เมตร ทำพบร่างคนงานเพิ่ม ไม่ห่วงกู้ภัยเอกชนทยอยถอนตัว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 เม.ย.68 ที่จุดเกิดเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตอนนี้สามารถลดความสูงของซากอาคาร สตง. ลดเหลือ 20.5 เมตร จากเดิม 26 เมตรแล้ว ทำให้พบผู้ประสบภัยเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจุดที่เจอคนงานเยอะๆ น่าจะอยู่ชั้น 24-29 และคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะเจอผู้ประสบภัยเพิ่ม
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า คาดว่าคนงานที่อยู่ชั้นสูง ตึกมีความโยกมาก น่าจะหลบหนีไปทางหนีไฟไม่ทัน เพราะต้องหาที่ยึดเกาะ ทำให้คนงานน่าจะติดอยู่ระหว่างชั้น 24-29 ค่อนข้างมาก ซึ่งการทำงานในวันนี้ก็ไม่ได้มีอุปสรรคอะไร เจ้าหน้าที่รัฐยังปฏิบัติงานเต็ม 100% ซึ่งมีข้าราชการของกรุงเทพมหานครประมาณ 500 คน
ส่วนภาคเอกชนอาจสลับสับเปลี่ยนกำลังไปทำภารกิจอื่นในช่วงนี้ แต่ก็ไม่ได้กระทบ เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ก็ไม่ได้ขาด ทั้งน้ำมันและสายไฮโดรลิคมีพร้อม และน้ำมันตอนนี้ที่ใช้ก็ประมาณ 5,100 ลิตรต่อวัน และตั้งเป้าหมายไว้ว่า ปลายเดือนนี้น่าจะรื้อซากตึกทั้งหมดเสร็จสิ้น
ส่วนแนวทางการปฏิบัติงานก็จะเน้นไปที่การใช้เครื่องจักรหนักในการขุดเจาะ กับโดรนร่วมมือกัน โดยโดรนจะเป็นตาที่ 3 คอยมอนิเตอร์มุมสูง สอดส่องว่าจุดไหนมีโพรง พบผู้ประสบภัยหรือไม่ โดยการรื้อจะเน้นด้านบนโซน B และ C ที่เป็นบันไดหนีไฟและโพรงลิฟต์ ซึ่งยังเชื่อว่าบริเวณนี้อาจพบผู้ประสบภัย
“ยืนยันว่าจะเก็บชิ้นส่วนมนุษย์ให้ครบและจะพยายามหาร่างผู้ประสบภัยให้ครบทุกคน ส่วนระยะเวลาที่ผ่านไป จะกระทบต่อการพิสูจน์อัตลักษณ์หรือไม่นั้น ยืนยันว่ามีเทคโนโลยีทันสมัยช่วยพิสูจน์ แต่นอกจาก DNA แล้ว ก็สามารถดูจากพยานหลักฐานอื่นๆ
ประกอบ เช่น เสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ด้วย ส่วนที่ครอบครัวที่เป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายก็ไม่ต้องกังวล เข้ามาให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่าง DNA ได้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เอาผิดอะไร เพราะจะมุ่งเน้นการพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์ให้ผู้ประสบภัยมากกว่า” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ส่วนทางคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาเก็บวัตถุพยานเพิ่มเติมในจุดเกิดเหตุ ก็ไม่กระทบต่อการทำงาน และทางกรุงเทพมหานครก็ยินดีจะให้ความร่วมมือ